เมนูแนะนำ กุ้งเผามันเยิ้ม

เมนูแนะนำ วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปล้วงความลับ ร้านอาหาร ในการทำกุ้งเผาทานกันเล่นๆ ที่บ้าน นั่นคือ "กุ้งเผามันเยิ้ม" พร้อมวิธีในการผากุ้งออกเป็น 2 ซีก และวิธีในการทำน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด แต่ก่อนอื่นที่เราจะมาเริ่มลงมือทำกุ้งเผากัน เราก็ต้องมาจัดเตรียมวัตถุดิบหลักอย่างกุ้งกันเสียก่อน โดยเริ่มจากการเลือกซื้อกุ้งตัวโตๆ เนื่องจากกุ้งตัวใหญ่จะมีมันกุ้งที่ปริมาณเยอะกว่ากุ้งตัวเล็ก จากนั้นเมื่อทำการเลือกซื้อกุ้งแล้ว ก็นำกุ้งมาล้างทำความสะอาด แล้วพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ

จากนั้นเมื่อล้างทำความสะอาดกุ้งเสร็จแล้ว ต่อมาก็จะมาถึงขั้นตอนของการผ่า เมนูแนะนำ ตัวกุ้งกัน โดยเริ่มจากหันหัวกุ้งเข้าหาลำตัวแล้วใช้กรรไกรตัดเปลือกของลำตัวกุ้งทั้งสองด้าน เสร็จแล้วหันลำตัวกุ้งที่ตัดแล้วเข้าหาลำตัว เพื่อตัวเปลือกบริเวณหัวกุ้ง แล้วใช้มีดคมๆ ผ่าเนื้อกุ้งลงไปตามแนวยาวของกรรไกรที่เราตัดเปลือกกุ้งเอาไว้ ดึกเส้นสีดำที่กลางหลังกุ้งออก ในส่วนของหัวกุ้งให้เราค่อยๆ ใช้กรรไกรตัดเหยื่อบริเวณหัวกุ้งออก จะเห็นขี้กุ้ง(มีลักษณะสีดำ)อยู่ติดกับมันกุ้ง ให้เราค่อยๆ ดึงขี้กุ้งออก ในกรณีที่ขี้กุ้งแตกไม่ต้องตกใจ ให้เราดึงในส่วนขี้กุ้งที่ดึงออกมาได้ แล้วนำหัวกุ้งไปเปิดผ่านน้ำเพื่อล้างเอาขี้กุ้งออก วิธีนี้จะช่วยให้มันกุ้งไม่เสียหายตามไปด้วย เพียงเท่านี้ก็จะได้สวยๆ นำไปเผาทานกัน

เมื่อได้กุ้งสำหรับเผาทานกันแล้ว ต่อไปก็จะมาทำ "น้ำจิ้มซีฟู้ดส์" รสเด็ดไว้ทานกับกุ้งเผามันเยิ้มกัน โดยน้ำจิ้มซีฟู้ดส์ เมนูแนะนำ นี้ ประกอบไปด้วยวัตถุดิบสำหรับทำ ดังนี้ กระเทียมสับ รากผักชีสับ พริกขี้หนูเขียว/แดงสับละเอียด โหรพาซอย น้ำเชื่อม น้ำปลา น้ำมะนาว วิธีทำก็โดยการนำส่วนผสมทุกอย่างมาผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน พร้อมปรุงรสให้เรียบร้อยตามรสชาติที่ต้องการ

  

 

เมนูแนะนำ บาร์บีคิว

เมนูแนะนำ วันนี้จะพาทุกคนเข้าครัวไปล้วงความลับสูตรเด็ด ของการทำบาร์บีคิวย่างทานกัน ก่อนอื่นเลยไปทำความรู้จักกับบาร์บีคิวกันก่อนดีกว่า ว่ามีประวัติความเป็นมาอย่างไร บาร์บีคิวนั้นเชื่อกันว่าเป็นกิจกรรมปาร์ตี้ที่เกิดขึ้นทางแถบทะเลแคริบเบียน ซึ่งตรงกับภาษายุโรปของคำว่า barbacoa ที่แปลว่าหลุมไฟ มีความหมายที่สื่อไปในทางการทำอาหารด้วยการรมควันเนื้อ (ในแถบทางยุโรปจะใช้เนื้อแพะในการย่างบาร์บีคิว)

เมื่อรู้จักประวัติคร่าวๆ ของกิจกรรมปาร์ตี้บาร์บีคิวกันแล้ว ก็มาทำความรู้จักกับวัตถุดิบในการทำ เมนูแนะนำ บาร์บีคิวย่างกัน ประกอบไปด้วย เนื้อสำหรับทำบาร์บีคิว (จะเป็นเนื้อไก่ เนื้อหมู หรือเนื้อวัวก็ได้) ไม้เสียบบาร์บีคิวสำหรับรมควัน ซอสหมักบาร์บีคิว และเตาย่างบาร์บีคิว เมื่อเตรียมพร้อมสำหรับกิจกรรมย่างเนื้อบาร์บีคิวกันแล้วก็มาเริ่มลงมือทำกันได้เลย

เริ่มจากการทำซอสหมักบาร์บีคิวกัน ซึ่งซอสหมักบาร์บีคิวโดยทั่วไปจะมีอยู่ 2 รสชาติหลักๆ ด้วยกัน คือซอสหวาน และซอสเผ็ด ก็ตามแต่ความชอบส่วนบุคคล แต่กรรมวิธีในการทำซอสก็ทำคล้ายๆ กัน คือผสมซอสมะเขือเทศ ซอสพริก ซอสหอยนางรม ซีอิ๊วขาว เกลือ พริกไทย และน้ำมันงาให้กลายเป็นเนื้อเดียวกัน ในขั้นตอนนี้สำหรับคนที่ชอบทานหวาน แนะนำให้ใส่ซอสมะเขือเทศในปริมาณมากหน่อย แต่สำหรับคนที่ชอบทานเผ็ด ก็แนะนำให้ใส่ซอสพริกในปริมาณมากแทน แล้วนำซอสหมักบาร์บีคิวที่ได้ไปหมักเนื้อที่เราต้องการนำไปย่าง โดยหมักซอสบาร์บีคิวทิ้งไว้อย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง เพื่อให้น้ำซอสซึมเข้าผิวเนื้อบาร์บีคิว เวลาทานจะได้รสชาติที่อร่อยกลมกล่อม

พอได้เนื้อหมักซอสสำหรับไว้ทำ เมนูแนะนำ บาร์บีคิวกันแล้ว ต่อมาก็มาถึงขั้นตอนเอาเนื้อเสียบไม้เพื่อนำไปย่าง โดยในขั้นตอนนี้แนะนำให้เสียบเนื้อบาร์บีคิวสลับกับพริกหยวก มะเขือเทศ และสับปะรด เพื่อให้เวลาทานจะได้ไม่เลี่ยนเนื้อบาร์บีคิวมากจนเกินไป

  

เมนูแนะนำ yogurt

เมนูแนะนำ วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ มาเข้าครัวทำ yogurt สไตล์ bulgaria กัน ถือได้ว่า yogurt เป็นสุดยอดอาหารที่มีประโยชน์มากมายหลายอย่าง ไม่ว่าจะนำไปทำขนม หรือนำไปทานเล่น หรือแม้แต่ในเรื่องของความสวยงาม yogurt ก็สามารถช่วยท่านได้ เราสามารถทำ yogurt เก็บไว้ทานเล่น หรือเก็บไว้ใช้ประโยชน์ได้ที่บ้านง่ายๆ ด้วยใช้วัตถุดิบในการทำเพียงแค่ไม่กี่อย่าง ซึ่งประกอบไปด้วย นมสดรสจืด yogurt (ไว้ทำเป็นหัวเชื้อ) และนมผง (ในส่วนนี้ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องใช้ก็ได้ เราใช้นมผงเป็นส่วนผสมเพื่อต้องการให้ yogurt ที่ได้มีรสชาติกลมกล่อมขึ้นเท่านั้น)

เมื่อเราจัดหาวัตถุดิบสำหรับทำ yogurt ได้เรียบร้อยแล้ว เราก็มาเริ่มลงมือทำกันได้เลย เริ่มจากอุ่นนมสดให้ร้อน แต่ไม่ต้องถึงกับเดือด จากนั้นเท yogurt ผสมลงไปในน้ำนมสดที่อุ่นเมื่อสักครู่ แล้วคนให้เข้ากัน แล้วนำไปบรรจุลงในภาชนะที่มีฝาปิด ทิ้งไว้ในที่ที่อุ่น หลังจากนั้นก็รอให้เชื้อจุลินทรีย์เติบโต ก็จะได้ yogurt เนื้อเนียนสวยอร่อยอย่าบอกใคร เมื่อได้ เมนูแนะนำ ที่หมักค้างคืนไว้แล้ว สามารถนำเข้าแช่ในตู้เย็นเพื่อให้เนื้อ yogurt แข็งตัวน่าทานมากขึ้นได้

ขั้นตอนง่ายๆ เพียงเท่านี้ก็จะได้ เมนูแนะนำ yogurt แสนอร่อยไว้ทานกับผลไม้สด หรือซีเรียลอร่อยๆ ที่บ้านแล้ว นอกจากจะเป็นอาหารว่างที่มีประโยชน์แล้ว ยังสามารถนำมามาร์คหน้าของเราได้อีกด้วย เพราะจุลินทรีย์จาก yogurt จะช่วยให้ผิวพรรณของเราสวยใส สุขภาพดี เคล็ดลับพิเศษในการทำ yogurt ไว้ทานเองที่บ้านอีกอย่างที่อยากแนะนำคือ หากท่านที่ชอบทานรสเปรี้ยวมากๆ แนะนำให้หมักทิ้งไว้หลายๆ ชัั่วโมงในอุณภูมิที่อุ่น แล้วจึงนำเข้าตู้เย็น แต่หากใครที่ไม่ชอบทานรสชาติเปรี้ยวๆ แนะนำให้หมักค้างคืนไว้แค่นั้นพอ

เมนูแนะนำ มะเขือเทศอบแห้ง

เมนูแนะนำ วันนี้เราจะพาไปเอาใจชาวรักสุขภาพที่ชอบทาน มะเขือเทศเป็นชีวิตจิตใจกัน หรือใช้เป็นอีกหนึ่งเมนูสำหรับท่านที่เบื่อทานมะเขือเทศสดๆ กันแล้ว นั่นคือ มะเขือเทศอบแห้ง ซึ่งสูตรที่จะนำมาแนะนำให้ได้ลองทำทานกันนั้น เป็นอีกสูตรที่สามารถทำทานกันได้เองที่บ้านง่ายๆ ที่สำคัญยังถือเป็นอาหารว่างที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย เพราะมะเขือเทศนั้นอุดมไปด้วยวิตามินซีที่ดีต่อผิวพรรณ หากเราทานมะเขือเทศติดต่อกันทุกวัน จะช่วยให้มีสุขภาพผิวที่ดี

ว่าแล้วก็มาเริ่มลงมือทำมะเขือเทศอบแห้งกันได้เลย เริ่มจากการคัดสรรเลือกใช้มะเขือเทศกัน แนะนำให้ใช้มะเขือเทศราชินี เพราะเป็นพันธุ์ที่มีผิวค่อนข้างแข็งแรง ที่สำคัญกรอบอร่อยกว่าพันธุ์อื่นๆ จากนั้นเมื่อเราได้มะเขือเทศมาแล้วก็นำมาล้างทำความสะอาดพักไว้ จากนั้นเตรียมน้ำปูนใสสำหรับแช่ เมนูแนะนำ โดยในน้ำปูนใสให้ผสมเกลือเข้าไปด้วย เพื่อความกลมกล่อมของรสมะเขือเทศอบแห้ง เมื่อเตรียมน้ำสำหรับแช่มะเขือเทศเสร็จแล้ว ต่อมาก็มาลงมือทำมะเขือเทศสำหรับลงแช่ในน้ำปูนใสกัน โดยการค่อยๆ กรีดบริเวณผิวมะเขือเทศ แต่ไม่ต้องให้ขาดออกจากกัน กรีดให้พอเอาไส้มะเขือเทศออกมาได้ อย่าลืมบีบเอาน้ำมะเขือเทศบางส่วนออกด้วย แล้วนำลงแช่ในน้ำปูนใสได้เลย

เมื่อได้มะเขือเทศที่แช่ในน้ำปูนใสมาเรียบร้อยแล้ว ก็มาจัดเรียงมะเขือเทศใส่ในหม้อต้ม ที่ละชั้นๆ โดยในแต่ละชั้นให้เติมน้ำตาลเข้าไป จากนั้นนำไปเคี้ยวด้วยไฟอ่อนๆ ห้ามคนโดยเด็ดขาด และไม่ต้องเติมน้ำ เนื่องจากเมื่อเคี่ยวไปซักพัก น้ำจากมะเขือเทศก็จะออกมาเอง เราค่อยๆ เคี้ยวจนกว่าน้ำเชื่อมจะซึมเข้าไปในผิวมะเขือเทศ พอน้ำเชื่อมซึมเข้าผิวมะเขือเทศเรียบร้อยแล้ว ก็ยกลงพักไว้ให้เย็น ก็จะได้มะเขือเทศอบแห้ง เมนูแนะนำ แสนอร่อยไว้ทานอร่อยๆ ที่บ้านกัน

เมนูแนะนำ Cheese

เมนูแนะนำ วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับสุดยอดอาหารทานเล่น ที่มีวิธีในการทำที่แสนง่ายเพียงแค่ 2 นาทีก็ได้ทานอาหารว่างแสนอร่อยกันแล้ว โดยมีวัตถุดิบหลักเพียงอย่างเดียว คือ "Cheese" นั่นเอง อาหารว่างประเภทนี้เป็นขนมที่ชาวญี่ปุ่นได้คิดค้นขึ้นมา แม้จะเป็นขนมสุดแปลกแต่รสชาติกลับอร่อยอย่างบอกไม่ถูก ถือได้ว่าชาวญี่ปุ่นเป็นผู้ผลิตสุดยอดขนมที่อร่อยที่สุด เป็นต้นตำหรับของอาหารว่างที่เราๆ ทานกันอยู่ทุกวันนี้ และยิ่งผสานเข้ากับความคิดสร้างสรรค์ ทำให้เกิดขนมสุดอร่อยอย่าง ชีสกรอบ ขึ้นมา ให้ทุกท่านได้ลองทำทานกันตาม

ว่าแล้วก็มาลองเริ่มทำชีสกรอบทานกันบ้างดีกว่า เริ่มจากการค้นหาชีสในตู้เย็นดูว่ายังพอมีหลงเหลืออยู่บ้างไหม จากนั้นนำชีสที่หาได้ไปวางไว้ในภาชนะสำหรับเข้าอบไมโครเวฟ หรือจะวางบนแผ่นกระดาษรองอบก่อนก็ได้ เพื่อกันไม่ให้ชีสเหนียวติดภาชนะ แล้วก็นำ เมนูแนะนำ เข้าเตาอบไมโครเวฟได้เลย ซึ่งจำเป็นต้องใช้ไปแรงสุดในการอบ และใช้เวลานานเพียงแค่ 2 นาทีเท่านั้น ก็จะได้ชีสกรอบแสนอร่อยไว้ทานกับเครื่องดื่มร้อน หรือเย็นกันแล้ว เพราะไมโครเวฟจะไปดึงเอาความชื้นออกจากแผ่นชีส ทำให้ชีสกลายร่างเป็น Snack สุดกรุบกรอบ หอม อร่อย อบอวลไปทั้งบ้าน

สำหรับ เมนูแนะนำ สูตรนี้ สามารถใช้ได้กับชีสทุกชนิด โดยรสชาติ และกลิ่นก็จะแตกต่างกันออกไปตามแต่ละชนิดของชีส เคล็ดลับพิเศษในการอบชีสให้อร่อยมากยิ่งขึ้น โดยการนำไปอบพร้อมกันกับแผ่นสาหร่าย จะช่วยทำให้ชีสมีรสชาติเค็มขึ้นเล็กน้อย หรือการใช้เวลาในการอบชีสเพิ่มขึ้น จะทำให้ได้ชีสปิ้งที่กรอบอร่อยมากยิ่งขึ้น เพียงเท่านี้ก็จะได้ขนมกรุบกรอบไว้ทานเล่น ระหว่างรอดูละครทางทีวีได้ด้วย หรือจะนำไปประยุกต์ใช้เป็นขนมทานเล่นสำหรับงานปาร์ตี้ ก็เวิร์กไปอีกแบบ

เมนูแนะนำ โรลผลไม้รวม

เมนูแนะนำ โรลผลไม้รวม

เมนูแนะนำ วันนี้ จะพาเพื่อนๆ มาลองทำ โรลผลไม้รวมสไตล์ญี่ปุ่นกัน ถือได้ว่าเป็นอาหารว่างทานเล่นที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย อันเนื่องมาจากผลไม้สดที่ใช้เป็นส่วนผสมหลักในการทำขนม มาเริ่มกันที่เตรียมวัตถุดิบในการทำขนมกันเสียก่อน ซึ่งประกอบไปด้วย ผลไม้สด(เช่น สตรอเบอร์รี่ กีวี ส้ม กล้วยหอม) ในส่วนของโรล(แป้งเค้ก ไข่ไก่ น้ำตาลทราย น้ำมันพืช น้ำเปล่า) ในส่วนของครีมสด(วิปปิ้งครีม น้ำตาลทราย) 

เมื่อจัดเตรียมวัตถุดิบสำหรับใช้ทำขนมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็มาลงมือทำโรลผลไม้รวมกันได้เลย เริ่มจากการร่อนแป้งเค้ก เพื่อให้แป้งไม่จับตัวกันเป็นก้อน ร่อนซัก 2 รอบกำลังพอดี แล้วพักแป้งเค้กที่ร่อนไว้ ตีไข่แดงกับน้ำตาลทรายให้ผสมเข้ากัน จากนั้นเติมน้ำมันพืชและน้ำเปล่าผสมลงไป ตีส่วนผสมให้รวมเป็นเนื้อเดียวกัน ค่อยๆ ใส่แป้งเค้กที่ร่อนไว้ลงไปตีผสมกับส่วนผสมของไข่แดงอีกครั้ง ตีจนส่วนผสมทุกอย่างกลายเป็นเนื้อเดียวกัน

ต่อมาตีไข่ขาวผสมกับน้ำตาลทรายจนตั้งยอดอ่อน แล้วค่อยๆ เทส่วนผสมของไข่แดงลงไปตีผสมรวมกับส่วนผสมของไข่ขาว ตีจนเนื้อเค้กละเอียดรวมเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วค่อยๆ เทส่วนผสมของ เมนูแนะนำ ลงไปในถาดอบ เกลี่ยเนื้อเค้กให้เรียบเนียนสวยทั่วกันทั้งถาด แล้วนำเข้าตู้อบ พอเนื้อเค้กสุก ค่อยๆ นำมาเคาะเอาเนื้อเค้กที่อยู่ในถาด พักทิ้งไว้ให้เย็น โดยพลิกเอาด้านเนื้อเค้กที่เป็นสีน้ำตาลขึ้นด้านบน ขั้นตอนนี้แนะนำให้ใช้กระดาษไขคลุมตักเค้กทิ้งไว้ เพื่อกันไม่ให้เนื้อเค้กแห้งแข็งกระด้างไม่น่าทาน

ทำครีมสดสำหรับเค้กโรผลไม้แสนอร่อย โดยการตีวิปปิ้งครีมผสมกับน้ำตาลทรายจนตั้งยอดอ่อน ปาดครีมสดที่เราทำไว้ลงบนหน้าเค้กตามแต่ความชอบ หากชอบทานครีมสดก็ให้ปาดหน้าเค้กด้วยครีมสดหนาๆ แต่ถ้าใครที่ไม่ชอบทานครีมสด ก็ให้ปาดหน้าเค้กด้วยครีมสดบางๆ โดยให้เว้นระยะห่างจากขอบเค้กประมาณ 1 นิ้ว เพื่อเวลาม้วนครีดสดจะได้ไม่ไหลทะลักออกมา เมื่อปาดครีมสดลงบนหน้าเค้กอย่างทั่วถึงแล้ว ก็สามารถจัดเรียงผลไม้สดตามความชอบได้เลย แล้วค่อยๆ ม้วนแผ่นเค้กให้เป็นโรล เพียงเท่านี้ก็จะได้ เมนูแนะนำ โรลเค้กผลไม้แสนอร่อย 

เมนูแนะนำ Dorayaki(どら焼き, どらやき)

เมนูแนะนำ Dorayaki(どら焼き, どらやき)

เมนูแนะนำ Dorayaki(どら焼き, どらやき) สุดยอดขนมจานโปรดของโดราเอมอน แมวหุ่นยนต์สีฟ้าสุดน่ารักของโนบิตะ ขวัญใจเด็กๆ ทุกยุคทุกสมัย แต่เดิมขนม Dorayaki ต้นฉบับแบบญี่ปุ่นนั้นไม่มีการใส่ไส้ คือเป็นแผ่นแป้ง Dorayaki ธรรมดาๆ ทานคู่กับเครื่องดื่มชาร้อน แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยน หน้าตาของขนม Dorayaki จึงเปลี่ยนไปตามยุคตามสมัยที่เปลี่ยนไป

สูตรขนม Dorayaki ที่จะพาเพื่อนๆ มาล้วงความลับ เมนูอาหาร ให้ได้ทำ เมนูแนะนำ ทานกัน ยังคงเป็นสูตรในแบบฉบับดั้งเดิม ที่ทอดโดยใช้กระทะไฟฟ้าในการทอด เพราะจะสามารถควบคุมอุณหภูมิความร้อนได้ง่าย ไม่เหมือนการทอดแบบใช้เตาถ่ายทอด ซึ่งจะควบคุมอุณหภูมิความร้อนได้ยาก หากไฟเตาถ่านอ่อนเกินไป จะทำให้แป้ง Dorayaki แบนไม่ขึ้นฟู ส่วนถ้าไฟของเตาถ่านแรงมากจนเกินไปก็จะทำให้แป้ง Dorayaki ไหม้ก่อนที่จะสุก เอาละเมื่อทำความเข้าใจกับเคล็ดไม่ลับ และประวัติบางส่วนของขนม Dorayaki มาเพียงพอแล้ว ต่อมาเราก็มาเตรียมวัตถุดิบสำหรับทำขนมกับเสียก่อน ซึ่งประกอบไปด้วย ไข่ไก่ น้ำตาลทราย น้ำผึ้ง ผงฟู น้ำเปล่า แป้งเค้ก และวัตถุดิบสำหรับทำไส้ขนม ประกอบไปด้วย ถั่วแดงกวน วิปปิ้งครีม น้ำตาลไอซิ่ง และเมื่อจัดเตรียมวัตถุสำหรับทำขนมพร้อมไส้เรียบร้อยแล้ว ต่อมาก็มาเริ่มลงมือทำขนมสุดโปรดของโดราเอมอนกันได้เลย เริ่มจาก ตีไข่ผสมน้ำตาลให้ขึ้นฟู แล้วใส่น้ำเปล่า น้ำผึ้ง และแป้งตีผสมให้เข้ากัน นำแป้งที่ตีขึ้นฟูแล้วไปแช่เย็นประมาณ 30 นาที ในระหว่างนี้เราก็มาจัดเตรียมไส้ขนมไปพร้อมๆ กัน เริ่มจากการนำน้ำตาลไอซิ่งมาตีผสมกับวิปปิ้งครีมจนขึ้นฟูสวย ใส่ถั่วแดงกวนผสมลงไปคนให้รวมเป็นเนื้อเดียวกัน เมื่อวัตถุดิบแป้ง และไส้พร้อมแล้ว ต่อมาก็มาทอดแป้งกันได้เลย โดยการทาน้ำมันไปที่กระทะพอประมาณ แล้วค่อยๆ หยอดแป้งลงกระทะในลักษณะกลมๆ พอแป้งด้านบนขึ้นฟองเดือด ให้พลิกด้านแล้วทอดต่ออีกซักครู่ จะได้แผ่นแป้ง Dorayaki ที่รอการใส่ไส้เข้าไป พักแป้งให้พออุ่นแล้วตักไส้ถั่วแดงที่ทำไว้ใส่เข้าไป เพียงเท่านี้ก็จะได้ขนม Dorayaki สุดโปรดของโดราเอมอนไว้ทานที่บ้านแล้ว

เมนูแนะนำ ขนมสุดโปรดของโดราเอมอน เป็นขนมที่ทำทานได้เองที่บ้านง่ายๆ ด้วยมีวิธี และวัตถุดิบในการทำที่ไม่ยุ่งยาก หรือซับซ้อน ทั้งวัตถุดิบยังสามารถหาซื้อได้ง่ายอีกด้วย เห็นอย่างนี้แล้ว เราจะต้องเสียตังค์ในการซื้อขนมทานกันทำไม สู้ทำทานเองที่บ้านและยังสามารถนำไปแบ่งปันให้เพื่อนบ้านแสนน่ารักของเรา ได้ลองทานฝีมือเราอีกด้วย